Dec-2017
ดอยปุยหลวง ปุยน้อย แม่เงา ตอน 3/3 จบ
ดอยปุยหลวง ปุยน้อย
ทริปล่าทะเลหมอก ลุ่มน้ำแม่เงา อช.แม่เงา จ.แม่ฮ่องสอน
อีกหนึ่งสุดยอดแอ่งทะเลหมอกของเมืองไทย งามอลังการไม่แพ้ที่ใดๆ คุ้มค่าการเดินเทรลแค่ไหน สำหรับคนที่ชอบเดินป่าเดินดอย เทรลนี้ดีต่อใจแค่ไหน มาดูกัน สำหรับตอนนี้ขึ้นสู่ตอนที่ 3/3 อันเป็นตอนจบของทริปละ ปะปะ ไปกัน
ความเดิมตอนที่แล้วๆ มา
- ตอน 1 ชิลกันก่อน สู่ ม่อนกองข้าว https://goo.gl/Z399eN
- ตอน 2 จากแคมป์1 สู่แคมป์2 ดอยปุยน้อย https://goo.gl/7pJTWW
อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 3
เช้ามืดนี้ที่ดอยปุยน้อย
ความสูงที่นี่ก็ประมาณ 1,430 ม. ห่างยอดดอยปุยหลวงมาทางทิศ 7 นาฬิกา ระยะทางเดินเทรล 4 กิโลเมตร อากาศ ณ ตอนนี้ ต้นธค. หนาวกำลังฟิน นาฬิกามือถือบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า และแอฟดูดวงอาทิตย์ก็บอกว่าอีกมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงดวงตะวันจะโผล่พ้นขอบฟ้า ไฮไลท์ของทริปรอเราอยู่ใกล้ๆ บนยอดปุยน้อยข้างๆ กันนี่ ไฟฉายคาดหัวพร้อม ลุย
ทะเลหมอกแม่เงา
แถ่มแท้ม ตู้วฮู้ว อลังการมาก ผืนใหญ่ สุดลูกหูลูกตา ยังกับมหาสมุทรทะเลหมอก ความเหนื่อยล้าที่เดินมาอย่างหนักตลอดวันเมื่อวาน 12 กิโล แม้ยังไม่ให้เมื่อย แต่วินาทีที่เห็นภาพตรงหน้านี้ต้องขอบอกคำเดียวทริปนี้คุ้มค่าสุดขีดแล้ว ลืมเมื่อยไปในบันดล
จุดชมวิวผาแดง / จุดชมวิวยอดดอยปุยน้อย
จุดชมวิวนี้อยู่หลังยอดปุยน้อยด้านทิศใต้ เราวางแค้มป์อยู่ด้านเหนือ จากแค้มป์ต้องเดินตัดขึ้นยอดดอยซึ่งไม่สูงมาก ปุยน้อยสูงประมาณ 1,470 สูงกว่าที่วางแค้มป์นิดเดียว แต่ทางตัดมาชันนิดหน่อย แล้วมุดป่าทึบๆ เปิดไฟฉายคาดหัว งมฝ่าความมืดกันมา แป๊บเดียว 400 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีถึง ฝั่งด้านใต้นี้เป็นม่อนเล็กๆ บางคนก็มากางเต็นท์นอนกันแถวนี้ได้เหมือนกัน เพื่อนที่เคยมาบอก เพราะใกล้แหล่งน้ำกว่า แต่พื้นที่มันแคบกว่านะ แต่เอาจริงๆ วิวมันโดน กางตรงนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เปิดเต็นท์มาก็ทะเลหมอกแบบนี้เลย เผลอๆ ขาวโพลนมาให้เห็นตั้งแต่ตีสองตีสาม
แอ่งทะเลหมอกล้นทะลักทะล้วงไปทั่วทุกสุดสายตาพานอราม่าจริงๆ โคตรชอบ ณ เพลานี้กลุ่มเรากรี๊ดกันทุกคน
มองไกลไปทางซ้ายมือจะเป็นลาดเหลี่ยมดอยลู่ลงไปข้างล่างแล้วเปลี่ยนเป็นสันเขาแคบๆ สูงขึ้นไปจรดปลายยอดตรงปลายสายตา เพื่อนในคณะหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปทางนั้นละ ทำท่าจะปีนไปพิชิตยอดนั้นกัน โห แรงเหลือกันจริงๆ ตอนนี้ขาผมยังไม่ฟื้นพอที่จะลุยไปกะเค้าด้วย
เพ่งกันดีดีครับ เสื้อแดงๆ แสดๆ กำลังไต่สูงขึ้นไปใกล้ยอดละ ยอมใจ
ตะวันแย้งตาขึ้นมานั่นละ บริเวณนี้ทั้งหมดคลุมตั้งแต่ม่อนที่เรายืนอยู่นี้ไปจรดยอดลิบๆตรงหน้านั้น จะเป็นหน้าผาสูงชันเกลี้ยงๆ ยามเย็นๆ แสงทองสาดมาจากฟากตะวันตกจะกลายเป็นผาสีออกทองๆแดงๆ ก็เลยเป็นที่มาของอีกชื่อเรียกขาน ว่า ผาแดง เอาจริงๆ ไม่ต้องรอแสงเย็นนะ แสงเช้าตอนนี้มันก็ดูแดงไปทั่วละ
ยืนจุ๊ยกันสักภาพ เท่ๆ ระหว่างรอกลุ่มที่ไปพิชิตปลายเหลี่ยมผาแดงกันมา เท่ชะมัด ยังกะปกอัลบั้มเพลง 555
Camping area ดอยปุยน้อย
สายๆ เราก็กลับลงมาแค้มป์ ล้างหน้าแปรงฟัน ถูก! ก็เมื่อเช้าแหกขี้ตาตื่นกันทุกคนก็ลุยฝ่าความมืดกันไปเลย จากนั้นก็จัดการเสบียงที่เหลือทั้งหมด กินให้เกลี้ยง ลดน้ำหนักแบกหามให้มากที่สุด วันนี้จะเป็นวันจบเทรลละ
บรรยากาศกินข้าวมื้อเช้าวันนี้ผมไม่ได้ถ่ายเก็บไว้เลย เพราะข่าวใหม่ที่ผึ่งเข้าหู ให้รีบวิ่งตามไปดูดอกไม้ตรงมุมโน้นนิดมุมนั้นหน่อย ทำให้ผมสนใจหันไปเก็บภาพดอกไม้ใบไม้สวยๆ รอบเต็นท์มากกว่า
อย่างพุ่มนี้อยู่เหนือหัวตรงที่กินข้าวกันนี่เอง
นี่กล้วยไม้ป่า ชื่อไม่รู้นะครับ ก็อยู่ข้างๆ เต็นท์ตรงที่ล้างถ้วยล้างชาม
ขาวแม่สะเรียง กับคองแคงสีบานเย็นเบลอๆ เป็นฉากหลัง
น่าจะเป็นพวกเอื้อง ขาวสวยและขึ้นอยู่หลายดอก อยู่สูงๆ เลยหัวไปเยอะ ต้องสังเกตดีดีแล้วใช้เทเลส่อง
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เราปิดแค้มป์เตรียมมุ่งหน้าไปเลี้ยงกันต่อที่แค้มป์คืนที่ 3 ริมน้ำแม่เงา ลาละนะ ดอยปุยน้อย จุ๊บุ๊จุ๊บุ๊ จนกว่าจะพบกันใหม่
แถวตอนเรียงเดี่ยว สิบกว่าชีวิต เตรียมตัวมุ่งหน้าลงดอย สำหรับระยะเดินวันนี้ ชิลๆ ครับ 4โลครึ่ง เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเทรลทริปนี้คือมันชิลปิดหัวปิดท้าย 3.5, 12, 4.5 คือตัวเลขระยะเทรลเดินทั้งสามวัน
แผนที่เทรล ดอยปุยหลวง ปุยน้อย ทั้งทริป
ทางเดินก็เริ่มด้วยการเลาะยอดปุยน้อย ที่ที่เมื่อเช้ามืดเราไต่ขึ้นไปบนนั้น
แล้ว 400 เมตร เราก็ทะลุมาโผล่อีกด้านหนึ่งของปุยน้อย หรือผาแดงซีกตะวันตก ป๊ะกับมหาสมุทรทะเลหมอกกันอีกครั้ง นี่คือสิบโมงครึ่งแล้วนะ หมอกยังไม่มีทีท่าจะวาย
มองย้อนกลับไป สูงสุดโน่นก็คือที่เรามายืนชมอาทิตย์ขึ้นกันเมื่อเช้า ขาลงนี่เราแค่ใช้เส้นทางเลาะมาโผล่ตรงนี้ ไม่ได้ตัดขึ้นยอดเหมือนตอนเช้า แต่ว่าทางมันมาบรรจบกัน ส่วนขวามือไกลๆ นั่นก็ที่เมื่อปลายเหลี่ยมผาแดงที่เหมือนเช้าเพื่อนบางคนไต่ไปพิชิตกัน คราวหน้าถ้ามีโอกาสมาอีก ผมจะพกแรงขามาให้เยอะๆกว่านี้
ไปครับ ตัดใจอำลาทะเลหมอก ระหว่างนี้เทรลเดินก็เคล้าสายหมอกไปเรื่อยๆ ยังกะเทรลสวรรค์ชั้นฟ้า
พ้นระดับ 1,400 เมตรลงมา ถือว่าพ้นรัศมีปุยน้อยละ ฟ้าแจ่ม แดดแรง แต่ลมที่พัดมายังเย็นเจี๊ยบๆ เทรลลงมีป่าคลุมให้ร่มเงาดีตลอดทาง แทบไม่ต้องกังวลแดดเผา
2.8 กิโล 1ชั่วโมง20นาที มาถึงระดับ 1,300 ทางเริ่มเปลี่ยนเป็นลาดชัน ดีครับ แบบนี้ยิ่งทำเวลา เดินไม่ยากครับ เพราะมีต้นไม้ให้เบรคตลอดทาง ลงกันยาวๆ ประมาณโลนึงจะเจอเนินน้อยๆ ขวางหน้าอีกโหนกนึงตรงนั้นจะมีทางแบบตรงไปก็ได้ จนท.ยืนดักอยู่คนนึงชี้ให้ใช้เส้นทางเลาะตัดเนินไปกาบขวาทางจะร่นระยะกว่า
เข้ารกเข้าพงกันอีกช่วง เหมือนไม่ใช่ทางหลัก แต่ขอให้ร่นระยะเถิดขี้เกียจเดินแล้ว //กำลังฝ่าดงโกแกง
ใกล้ละครับ ดูจากจีพีเอส เราลงมาต่ำกว่าพันเมตรแล้ว ตอนนี้เหมือนจะได้ยินเสียงเครื่องรถยนต์หึ่มๆ อยู่ไกลๆ แซกราวป่าเข้ามาตามลม
3 ชั่วโมงเต็มๆ กับเทรลลงเขาระยะทาง 4 กิโลครึ่ง
ในที่สุดเราก็ถึง จุด Finish Trail เย้ โคตรอยากจะทิ้งตัว มีประตูรั้วกันโคกระบือเป็นจุดสังเกต
4WD ที่มาซุ่มรอรับ จ๊ะเอ๋ อยากเจอที่สุด พาพวกฉันกลับออกไปโหน่ยเดินไม่ไหวแล้ว
ไปครับ ฮึบสุดท้ายรวบกำลังขาอันปวดร้าวโดดขึ้นรถ
เราครองแชมป์ตลอดกาลตำแหน่งบ๊วยอีกเช่นเคย มาสบทบกับพลพรรคที่นำหน้ามาคอยท่าอยู่ก่อน
โค้กอร่อยสุดก็นาทีนี้แหละ เชื่อว่าเป็นกันทุกคนเดินป่าเหนื่อยแล้วอยากโค้ก ชิมิ
นั่นๆ นอกจากโค้กเย็นชื่นกระเดือกแล้วยังมีแผนกพัดวี 5555
23 กิโลรถ สู่ ที่ทำการ อุทยานแห่งชาติ แม่เงา บนเส้นทางสายแม่หลุยใต้
มาครับ ลงเขากันต่อ แต่คราวนี้ควบตะเบ็งไปกับขับเคลื่อนสี่ล้อละ เป็น 7 กิโลลงเขาแล้วต่อด้วยเส้นทางเลียบไปกันสายน้ำแม่เงาอีก 16 โล ก็ลุถึงโซนกางเต็นท์บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ
อันที่จริงแพลนของเราคือรถจะมาส่ง ณ จุดๆ หนึ่งริมน้ำนี้แล้วสลับเข้าสู่โหมดผจญภัยไปกับสายน้ำด้วยการล่องแพกันยาวๆ สู่อุทยานฯ แต่กระแสน้ำวันนั้นมันแรงเกินไปหน่อย ระดับน้ำสูงเกินไปนิด หัวหน้าทีมก็เลยตัดสินใจแคนเซิล …. ก็ได้แต่เสียดายกันไป
แคมป์คืน 3 แม่เงา
ความฟินปิดท้ายทริปกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ขณะนี้เราได้กลิ่นน้ำละ หลังจากไม่ได้อาบน้ำมามาสามวันเต็มๆ ทุกคน วะฮะฮ่า
และอย่างไม่มีการรีรอ โดดตูม อาร์ซี๊ด ฉดฉื่น สะใจ น้ำที่เงาๆ พลันขุ่นขลักปลาลอยกันเป็นแพ 555
แม่เงาน้ำแรง น่าเล่นมาก แต่ใครว่ายน้ำไม่แข็งก็ต้องเกร็งขากันดีดีอย่าให้หลุดออกไปร่องน้ำ เดี๋ยวจะตามเก็บกันเป็นกิโลๆ
ท้องน้ำเต็มไปด้วยกรวดหิน ตีนเปล่าเจ็บครับ ก็เลยต้องใส่รองเท้าลงมา ถือเป็นการล้างรองเท้าไปในตัว
บรรยากาศแคมป์ของเราในวันนั้น มันตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์ที่นี่กันหนาตาพอควร พวกเราก็จะดูเป็นตัวประหลาดๆ กันหน่อยเพราะตอนที่มาถึงอยู่ในสภาพแดงมาทั้งตัวจากฝุ่นทาง //ได้เวลาขาตั้งเปลี่ยนมาเป็นที่ตากผ้า และเฝ้ารอเวลาดินเนอร์
เมนูบ้านๆ ของกินเรียบง่าย กินไปตามมีตามเกิดเช่นเคย เที่ยวป่าต้องกินง่ายอยู่ง่าย แพลบๆ 😛
บทส่งท้าย
เป็นอันว่าปิดทริป 4Days 3Nights ทริปล่าทะเลหมอกดอยปุยหลวง-ปุยน้อย กันไป
- เส้นทางเดินป่าดอยปุยหลวง ปุยน้อย แม่เงา ยังไม่ได้ฮิตติดระเบิด คนยังน้อย ใครชอบทริปคนน้อยๆ น่าจะชอบที่นี่
- เส้นทางเดินเบาสลับหนัก ถ้าเดินตามแบบเราก็คือวันแรก ม่อนกองข้าว เดินเบาๆ สามโลกว่า และวันสุดท้ายลุยลงดอย ก็ไม่หนัก แค่สี่โลกว่า จะไปหนักวันที่สอง ที่เดินจากม่อนกองข้าวมาแคมป์ปุยน้อย นั่นเดินไกลมาก 12 กิโล
- เส้นทางนี้ไม่มีน้ำ ต้องแบกหามกันไปเอง ดังนั้นน้ำทุกหยดต้องใช้อย่างประหยัด ไม่มีการอาบน้ำ
- จุดเริ่มและจุดสิ้นสุดเทรลอยู่ห่างไกลที่ทำการอุทยานฯ มาก ไม่ว่าคุณจะเริ่มจากด้านไหน ดังนั้นต้องมีการเหมาะรถ 4WD ซึ่งติดต่อเหมาะได้กับอุทยานฯ
- ต้องมีจนท.นำ และจำเป็นต้องมีลูกหาบ ยกเว้นคุณอยากจะแบกหาบเอง แต่ก็จำเป็นต้องมีจนท.นำอยู่ดี
- เส้นทางเดินง่าย ทางชัดไม่ซับซ้อน ทางชันมีไม่มาก
- เป็นเทรลเดินที่วิวเทรลสวยมากๆ ที่หนึ่ง สวยไม่ซ้ำที่ใด
- ลิงค์และเบอร์ติดต่ออุทยานฯแม่เงา อุทยานแห่งชาติแม่เงา
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกัน ทุกคอมเมนท์ ทุกไลค์และแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีเสมอ พบกันใหม่ทริปหน้าครับ …. น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
ตอนที่ 1 ชิลกันก่อน สู่ ม่อนกองข้าว
ตอนที่ 2 เดินถึกสู่แคมป์2 ดอยปุยน้อย
ตอนที่ 3 ทะเลหมอกแม่เงา ดอยปุยหลวง ปุยน้อย
Comments are closed.