Jul-2018
ทิเบตนอกทิเบต เสฉวนสุดขอบฟ้า ตอนที่ 1/2
ทิเบตนอกทิเบต
เสฉวนสุดขอบฟ้า
ตอนที่ 1/2
ทะเลสาบสุดขอบฟ้า Xinlu hai
ทริปในฝันสู่ดินแดนที่ไปยากที่สุด และอาจจะกำลังถูกปิดตายจากโลกภายนอก!
Yachen gar, Larung gar ดินแดนมหาวิทยาลัยสงฆ์พุทธวัชยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่ตั้งอยู่ในดินแดน ทิเบต ที่อยู่นอกทิเบตอีกที!
Highlight trip: Yachen gar, Larung gar (พลาด), ทะเลสาบ Xinlu, หมู่บ้านทิเบต Jiaju, วิวภูเขาสี่ดรุณี, วิวภูเขา Yala, และความสวยงามของเมืองต่างๆ และวิวสองฝั่งทางที่โคตรงาม
Location เขตอาปา, เขตกานจือ โซนภูเขาซีกตะวันตก มณฑลเสฉวน
ทั้งสองเขตคือเขตปกครองตนเองทิเบต นอกดินแดนทิเบตที่มีเมืองลาซาร์เป็นเมืองหลวง
เดินทาง 7 วัน 1,824 กิโลเมตร
ความสูงจากระดับทะเลในทริป
ต่ำสุดอยู่ที่เฉินตู alt: 500m.
สูงสุดอยู่ที่เส้นทางข้ามพาสไปย่าเฉิน alt: 4,800m.
สูงสุดของที่พัก alt: 3,965m. ที่ย่าเฉิน
สเต็ปการปรับร่างกายขึ้นที่สูง
Night1 จากเฉินตูขึ้นไปพักที่ตันปา alt: 2,400m.
Night2 นอน Luhuo alt: 3,200m.
Night3 ขึ้นเทรคเล็กๆที่ทะเลสาบซินหลู alt: 4,040m. แล้วลงมาพักที่ Ganzi alt: 3,390m.
Night4 เข้าสู่ที่พักสูงสุดของทริป alt: 3,965m. ที่ย่าเฉิน สิ้นสุดการปรับความสูงที่นี่
รายละเอียดทริป
Day1 Chengdu – Danba
นอนในหมู่บ้านทิเบต Jiaju หมู่บ้านโบราณที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดอันดับต้นๆ ของจีน
Day2 Danba – Luhuo
เดิมทีจะบุกให้ถึง ยาเชนการ์ ที่ความสูง 4,000 เมตรเลย แต่แล้วก็ไปได้เพียงเมืองกลางทาง
Day3 Luhuo – Xinlu lake – Ganzi
ทะเลสาบที่งามที่สุดของทริป ที่เกือบถูกตัดออกจากแพลนเพราะความล่าช้าใน day2
Day4 Ganzi – Yachen gar
และแล้วฝันก็เป็นจริง เราได้มายืนอยู่ตรงหน้า dream destination แล้ว ยาเชนกร้า อารามชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Day5 Yachen gar – Wengda
หิมะเดียวในทริป ซุ่มในเมืองเล็กๆ เพื่อรอลุ้นย่องเข้าลารุงกร้า!!
Day6 Wengda – Gu’Ergou
พลาดหวังจากลารุงกร้า ซมซานมาปรับหัวใจที่ Gu’Ergou
Day7 Gu’Ergou – Chengdu
ดิ่งกลับเฉินตู เก็บอีกสองที่ หมู่บ้านโบราณข้างทาง และเมืองแผ่นดินไหว Yingxiu จบทริป
Tibet outside Tibet คือดินแดนทิเบตที่อยู่นอก Tibet Autonomous Region หรือนอกเขต TAR หรือนอกมณฑลซีจ้าง 西藏 (ทิเบตตะวันตก) นั่นเอง ซีจ้างที่มีเมืองลาซาร์ Lhasa เป็นเมืองหลวง คงคุ้นชื่อ Lhasa กันเป็นอย่างดี ชาวทิเบตกว่า 6 ล้านคนนั้นไม่ได้จำกัดตัวอาศัยอยู่แต่ในเขต TAR เกินครึ่งหนึ่งของหกล้านคนนี้อาศัยอยู่นอก TAR
ชาวทิเบตแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก U-Tsang, Amdo และ Kham
ชาว U-Tsang นั้นอาศัยอยู่ใน TAR ทั้งหมด
ชาว Amdo ส่วนใหญ่ครองพื้นที่เกือบทั้งหมดของมณฑลชิงไห่ บางส่วนล้ำเข้าไปในมณฑลกานสู และอีกบางส่วนอยู่ในเขต Aba มณฑลเสฉวน
ส่วนชาว Kham นั้นส่วนหนึ่งอาศัยอยู่บริเวณตะวันออกของ TAR และอีกส่วนหนึ่งยึดที่มั่นอยู่ในเขต Ganzi มณฑลเสฉวน และอีกบางส่วนล้ำเข้าไปอยู่ในพื้นที่ตอนเหนือๆ ของมณฑลยูนนาน แถบๆ ต้าหลี่ หลีเจียง ภูเขามังกรหยก และแชงกรี-ล่า คุ้นๆ ชื่อกันทั้งนั้นเลยใช่มั้ยครับ สำหรับ road trip ทิเบตนอกทิเบตในครั้งนี้ที่น้องมาชวน พวกเราจะเข้าสู่ดินแดนของทิเบต Kham จังหวัดปกครองตนเองทิเบตกานจือ (Ganzi Tibetan Autonomous Prefecture) และดินแดนของทิเบต Amdo จังหวัดปกครองตนเองทิเบตอาปาและเกวียง (Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture) โดยทั้งหมดจะอยู่ในพื้นที่โซนภูเขา ตะวันตกของมณฑลเสฉวนนั่นเอง พ่าบพ้าม พร้อมเดินทางกันหรือยังครับ
จากรูป
พื้นที่สีแดงเข้มๆ นั่นคือเขต TAR
ส่วนสีแดงจางๆ นั่นคือ ทิเบตนอกทิเบตทั้งหมด
เส้นสีเหลืองๆ ก็คือ route ทั้งทริปของเรา เราบินลงฉงชิ่งดิ่งไปเฉินตูแล้วก็ขึ้นสู่โซนภูเขา western area ของเสฉวน
เฉินตูถึงแล้ว
จากภาพข้างบนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเส้นทางบินไม่ตรงไปลงเฉินตู เรื่องของเรื่องพวกเราบินไปลงฉงชิ่งเที่ยวที่นั่นก่อนคืนนึงแล้วซิ่งรถไฟความเร็วสูงมาเฉินตูมาสบทบกับกลุ่มใหญ่ที่นัดกันไว้ ฉงชิ่งน่าเที่ยวมาก และผมทำรีวิวอัพเดทฉงชิ่งไว้ที่นี่
update ฉงชิ่ง 2018
เราจับรถไฟความเร็วสูงเที่ยวรองสุดท้ายจากฉงชิ่ง 96.5 หยวน หรือ 480 บาท ระยะทาง 307 km. ทำเวลาวิ่งเพียง 2 ชั่วโมง รายละเอียดปลีกย่อยฝังไว้ในรูปแล้ว
สู่จุดนัดพบ
สู่สนามบิน Chengdu Shuangliu International Airport
นัดคณะใหญ่ไว้ที่หนามบินครับ จริงก็ไม่ใช่คณะใหญ่มากอะไร พวกเรา 4 คน นัดมารอพบอีก 6 คนที่เหลือ + 1 ผู้นำทริป เวลา 6โมงเช้าวันที่ 5พค.
รถไฟสู่สถานีปลายทางที่ Chengdu East Railway Station มาถึงไม่ทันรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายไปสนามบิน ก็เลยต้องลากกระเป๋าขึ้นมาบนดินโบกแท๊กซี่กัน สนามบินอยู่ห่างออกไป 25 โล แล่นไม่นานก็ถึง เพราะมืดมากแล้ว ถนนโล่ง
23:40 น. เรายังไม่ทันเริ่มทริปเราก็เดินทางปามากว่า 2,200 โลแล้วนับตั้งแต่ออกจากบ้านมาเมื่อ 45 ชั่วโมงที่แล้ว ความรู้สึก ณ นาทีที่ลากเป๋าเข้ามาในเทอร์มินอลนี้คือตื่นเต้น ที่ทริปเสฉวนสุดขอบฟ้าของเราจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ท่าอากาศยาน Chengdu Shuangliu International Airport
หัวหน้าทีมนัดเรามาพบที่ KFC ยังอีกหลายชั่วโมงจะถึงเวลานัด หอบความหิวกันมาไกล หิวกันเต็มที่แล้ว แต่พอนั่งปุ๊บร้านปิดไฟ!! เอ๊ะยังไงกัน อ๋อ เที่ยงคืน ร้านปิด ยังดีออเดอร์ไปนั่งกินนอกร้านได้ หลังจากอิ่มเราก็ขยับขยายไปหามุมนอน แทบทุกเก้าอี้ทั่วทั้งฮอลถูกจับจองหมด แต่หลังจากเดินสำรวจไปทั่วๆ ก็ไปได้มุมสงบชั้นล่าง arrivals hall เค้ากั้นผนังเตรียมปรับปรุงพื้นที่หรือไงเนี่ยแหละ ส่วนที่ถูกกั้นเลยกลายเป็นมุมสงบๆ มีเก้าอี้แถวให้นอนเหยียดกันครบทุกคน ทำสมาธิหลับให้เต็มที่ ร่างกายต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนขึ้นที่สูง
ระหว่างหลับเอาแรงรอสว่างเรามาทำความรู้จักมณฑลเสฉวนกันสักเล็กน้อยกันครับ
มณฑลเสฉวน เป็นมณฑลที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของจีน
ขนาดพื้นที่เกือบเท่าประเทศไทยทั้งประเทศ เมื่อก่อนฉงชิ่งก็รวมอยู่ในเสฉวนนะครับ ตอนนี้แย่งไปเป็นเทศบาลนครแล้ว ถ้าไม่แยกเนี่ยมณฑลนี้มีพื้นที่ใหญ่กว่าไทยทันที
เสฉวนแบ่งย่อยลงเป็น 21 prefecture
มีเฉินตูเป็นเมืองหลวงของมณฑล เมืองที่เรามางีบหลับอยู่ตอนนี้
และมี prefecture ที่ปกครองตนเอง 3 แห่ง กินพื้นที่แทบทั้งหมดก็โซนภูเขาแถบตะวันตก สองในสามแห่งนี้เป็นเขตปกครองตนเองของชาวทิเบต ที่ใหญ่ที่สุดคือ เขตปกครองตนเองทิเบตกานจือ และที่ใหญ่รองลงมาคือเขตปกครองตนเองทิเบตอาปา&เกวียง ซึ่งก็คือพื้นที่ที่เราจะเข้าไปในทริปนี้
ซูมๆ เข้ามาดูเขตกานจือกับอาปา เป็นสองเขตที่มีพื้นที่ใหญ่สุด อันดับ 1 และ2 ของเสฉวน นี่คือดินแดนทิเบตนอกทิเบตทั้งหมดในเสฉวน
ซอยๆ เข้าไปอีกนิด ในกานจือกับอาปา ว่าแบ่งพื้นที่ย่อยออกไปเป็นอะไรบ้าง กานจือมีเมืองหลวงเป็นเมือง Kangding อาปามีเมืองหลวงเป็น Barkam
**ส่วนเส้นสีฟ้าๆ นั่นคือ route trip ของพวกเราในครั้งนี้
May5, 2018 … 6 am. เริ่มต้นทริป ณ บัดนาว
Day1 Chengdu – Danba
ความสูง 500m. สู่ 2,400m.
ระยะทาง 344 กิโล
ระยะทำเวลา 10 ชม.
อากาศเช้านี้ขมุกขมัวมาก ตรงข้ามกับอารมณ์ที่โคตรสดใส ยิ่งใกล้ล้อจะหมุนยิ่งตื่นเต้น
เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปที่เราจะเดินทางสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงระดับ 4,000m. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง การค่อยๆ ปรับระดับจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะ Altitude sickness วันแรกนี่เราวางหมุดไปที่เมืองตันปา (Danba) เขตกานจือ ไปปรับตัวที่ระดับความสูง 2,400 m. ก่อนเขยิบสูงขึ้นไปในวันต่อๆ ไป ระยะทางวันแรกถือเป็นการเดินทางทำระยะยาวสุดในทริป ที่ 344 กิโลเมตร
รถแล่นไปได้ 70 โลก็ขึ้นสู่โซนภูเขา ซึ่งก็หมายถึงเตรียมขึ้นสู่เขตทิเบตนอกทิเบต
วิวข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นภูเขาสูง ช่วงขับผ่านแม่น้ำ Minjiang สวยงามมากๆ แล่นเข้าสู่เมือง Yingxiu, Wengchuan, Aba เราก็จอดจุดแรก แวะกินข้าวมืื้อเช้ากัน แล้วก็กินไอติมแก้ความเผ็ดๆเลี่ยนๆมันๆ ของหมาล่า จุดนี้เป็นจุดที่บังคับจอด เพราะต้องไปลงทะเบียนแจ้งจนท.ว่าพานักท่องเที่ยวเข้ามา ตรงนี้เป็นปากด่านทางหลวงจังหวัดหมายเลข S303
รถขับผ่านป้ายทางเข้า Panda valley เฉินตูนี่ถิ่นแพนด้าเลยนะครับ แต่ทริปนี้เราไม่ได้มาตามหาแพนด้า ก็เลยไม่สนใจ ได้แต่ไต่ ไต่ ไต่ ต่อไป
ไต่เขามาอีกนิด อาสุ่ย พขร.ของเราก็โฉบเข้าข้างทาง ไปหิ้วอ๊อกซิเจนมานำเสนอ เผื่อใครอยากจะซื้อ มีทั้งแบบน้ำ! ราคา 100 หยวน และแบบกระป๋องสเปย์ ราคา 70 หยวน เราก็ซื้อทันทีเลยครับ สองป๋อง ตุนไว้ก่อนเผื่อฉุกเฉิน อันที่จริงก็ซัดไดอามอกซ์กันมาล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ฉงชิ่งละ
ไดอามอกซ์ ( Diamox ) คือยาที่คนไทยนิยมใช้กินดัก สำหรับปรับร่างกาย หัวใจ เพื่อเตรียมตัวขึ้นสูงพื้นที่สูงมากๆ ที่ในอากาศมีอ๊อกซิเจนเบาบาง ขนาดที่กินคือ 250mg ครั้งละครึ่งเม็ดทุก 12 ชม. ก่อนขึ้นที่สูงประมาณ 1-2 วัน
เรียนรู้เรื่องยาตัวนี้อย่างละเอียดได้ที่นี่ >> http://www.worldwantswandering.com/2016/02/10/3813/
ผ่าน 1,000m. ที่ Yingxiu, 2,000m. ที่ Wolong อันที่จริงเส้นทางวันนี้จะต้องไต่ถึงระดับ 4,500m. ซึ่งสูงมากๆ แต่แล้วเมื่อถึง 3,854 ก็กลายเป็นอุโมงค์มุดไปเลยครับ เส้นทางไต่ฟ้า 4,500 กลายเป็นทางสายเก่า ซื่งถ้าได้ไปเราจะได้แล่นผ่านทุ่งหิมะ จุดชมวิวภูเขาหิมะที่มีชื่อว่า Balangshan Panda Kindom Point Top ที่ความสูง 4,200 เสียดายอดไต่ ไม่งั้นแล้วคงตื่นเต้นน่าดู ที่เพียงครึ่งวันแรกก็ทำความสูง จาก 500m. ที่เฉินตูทะลุมาเหนือระดับ 4,000 เมตรเพียงภายในครึ่งวัน อดมายืนทดสอบการปรับตัวของร่างกาย เสียดายกับ high pass อันนี้มาก แต่ก็แลกกลับมาด้วยความสะดวกสบายกับอุโมงค์ความยาว 8 กิโล ที่ร่นระยะทางลงไปได้ 18 กิโล ซึ่งเป็นเส้นทางช่วงตอนที่คดเคี้ยวที่สุดที่หากไต่กันจริงๆ คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง
จุดชมวิวยอดเขาสี่ดรุณี
Maobiliang
Cat nose ridge view point
หรือจุดชมวิวที่มีชื่อว่าสันจมูกแมว
elevator: 3,475m.
https://goo.gl/maps/5QMZd9Wo5cF2
หลังทะลุอุโมงค์ออกมาบนความสูง 3,800 กว่าผ่านจุดสูงสุดของ pass ในรถก็เริ่มกรี๊ดกร๊าดกับวิวภูเขาหิมะข้างหน้า คว้ากล้องถ่ายกันพัลวัน โอนไปเอนมากับจังหวะรถเหวี่ยง สักพักอาสุ่ย ก็บอกว่าใจเยนๆ นั่งเสยๆ เด๋วจอดให้ถ่าย อาสุ่ยผู้รู้ใจ แต่แหม่ น่าจะบอกให้ไวกว่านี้ เกือบตีลังกาในรถ ที่มาของชื่อสันจมูกแมว คงเป็นเพราะตรงนี้เป็นช่วงปลายสันเขาพอดี ที่มองจากไกลๆ เหมือนปลายจมูกของแมว
วิวยอดเขาสี่ดรุณี
ขณะนี้ยอดภูเขาสี่ดรุณีอยู่ตรงหน้าแล้ว สวยมาก ตื่นเต้นมาก แต่ในภาพนี้มองไม่เห็นยอดสูงสุด ที่อยู่ทางซ้ายสุด มันหายเข้าไปอยู่ในเมฆ ซึ่งยอดสูงสุดสูงถึง 6,250m. มีชื่อว่าเหยาเหม่ย หรือ youngest sister หรือน้องสาวคนสุดท้องนั่นเอง
ยอดไหนเป็นยอดไหนมาดูกัน กับแผนที่กูเกิลเอิร์ธ
แวะเมือง Rilong พักกินเที่ยง
Rilong หรือ 日隆 เป็นทาว์นเล็กๆ ที่ไม่เล็ก ที่ว่าไม่เล็กเพราะที่นี่คือศูนย์กลางประตูสู่เส้นทางท่องเที่ยวเทรคกิ้งขึ้นยอดเขาสี่ดรุณี มีโรงแรม และร้านอาหารมากมาย รวมทั้งร้านขายอุปกรณ์เทรคกิ้งด้วย จนได้รับนิคเนมว่า Siguning Town
เมืองนี้อยู่บนความสูง 3,100m
หน้าร้านที่แวะกินข้าวเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งเป็นวิวแม่น้ำ Dawei
มาถึงตรงนี้เราทำเวลามา 6 ชั่วโมง และทำระยะทางมา 230 กิโลเมตรแล้ว ปลายทางสำหรับวันแรกอยู่ห่างออกไปอีกเพียงร้อยโล
Night1 หมู่บ้านทิเบต Jiaju
ตอนที่เราเข้าถึงเมืองปลายทางตันปา (Danba) ก็ต้องตะลึงกับหมู่ตึกกลางหุบเขาอันไกลโพ้น โอแม่เจ้า จีนเนรมิตเมืองซ่อนเร้นไว้ตามหุบเขา!! มันเหลือเชื่อสายตาจริงๆ อารมณ์ประมาณว่า เฮ้ยๆ เด๋วๆ สร้างกันขนาดนี้เลยเหรอ 555 ภาพถ่ายไว้ไม่ค่อยสวย เพราะถ่ายในรถแถมฝนตก แต่ว่ามีภาพตอนขาออกจากตันปา เด๋วลงให้ดู
Jiaju Tibetan Village
Danba, Ganzi, Sichuan
elevator: 2,200-2,400m.
หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดอันดับต้นๆ ของเมืองจีน
พิกัดหมู่บ้าน https://goo.gl/maps/91JqdJcAUSz
หมู่บ้านนี้อยู่เลยตัวเมืองตันปาออกมาหน่อย ขึ้นมาทางทิศเหนือ ราวๆ 8 กิโล
สวยสมคำล่ำรือครับ Jiaju เป็นหมู่บ้านทิเบตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสมญาว่าหมู่บ้านพันป้อม เนื่องจากมีป้อม หรือหอสังเกตการณ์นับพัน ปัจจุบันหลงเหลืออยู่ในหลักร้อย
บ้านที่เราพัก
ที่พักที่นี่ไม่มีจองออนไลน์ วิธีการคือ walk-in เลย ตอนที่เข้าสู่เขตหมู่บ้าน จะมีเสียค่าธรรมเนียมที่ด่านหน้าหมู่บ้านนิดหน่อย หลังจากนั้นขับมาตามทาง (ถนนราดยางอย่างดีเยี่ยม) เจอลานชมวิว ที่คุณจะอดใจไม่ได้ที่จะต้องจอดถ่าย และตรงลานนี้เองจะเจอพวกคนของที่พักเข้ามาจีบคน มาเชิญชวนไปพักกับเค้า ซึ่งเราก็ตกลงราคา สอบถามออปชั่นแล้วให้มาดูห้องก่อนตัดสินใจ ซึ่งพอเห็นทำเลปุ๊บก็ตกลงโอเคทันที สนนราคาก็หลักร้อย
วิวจากบริเวณที่พัก สวยนะ นี่ตอนแสงลงโคตรสวย แต่พอโยนกระเป๋าแล้วเดินย้อนมาถ่ายดันแสงหมด ดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาเร็วมาก เพราะรอบตัวเป็นเขาสูงล้อมรอบ
เก็บแสงไม่ทัน ก็เลยได้แต่วิวในเงาประมาณนี้
บรรยากาศยามทไวไลท์หน้าที่พัก
มื้อค่ำกับอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ ที่ทางที่พักจัดให้ อร่อยถูกปากเกือบทุกเมนู ซัดกันเต็มอิ่มในห้องเล็กๆ อุ่นๆ หลบความหนาว ทริปนี้ไม่ลืมจะหยิบพวกน้ำพริกมาด้วย กันเหนียว เผื่อเจออาหารไม่ถูกปาก เถิ่งใจ๋ น้ำพริกน้ำย้อย มี 5 รส หมูกระจก, กุ้ง, ต้มยำกุ้ง, เห็ดนางฟ้า แล้วก็รสออริจินอล
good morning Jiaju
อรุณสวัสดิ์ทักๆ เช้า Day2 อันโคตรสดใส เช้านี้สปริงตัวจากที่นอน หากาแฟอุ่นๆ จิบ แล้วก้าวขึ้นมาเก็บแสงเช้าบนดาดฟ้าที่พัก
สภาพห้องพัก มีหลายแบบหลายราคา แบบห้องน้ำในตัว ห้องน้ำรวม ห้องนอนรวม
ลวดลายฝาผนัง ศิลปะชาวทิเบตัน
วิวบนดาดฟ้าที่พัก ก็จะประมาณๆ นี้ ถามว่าสวยมั้ย โคตรสวยเลยอ่า แสงเช้าสาดมาด้านหน้าที่พัก ส่วนด้านนี้เป็นด้านหลัง ในหุบเบื้องล่างจะเป็นแม่น้ำ Dajin ส่วนร่องตัว V ไกลๆ สุดสายตานั่นคือทิศทางที่ย้อนกลับไปเมืองตันปา
May6, 2018 วันอันแปรปรวนของแพลน!
Day2 Danba – Luhuo – Ganzi – Yachen gar ( ไปถึงแค่ Luhuo)
ความสูง 2,400m. สู่ 4,000m. (ไปถึงเพียง 3,200m.)
ระยะทาง 442 กิโล (ไปได้เพียง 240โล)
ใช้เวลาเดินทาง 8 ชม.
กำหนดการเดิมถูกแพลนไว้ให้ปลายทางวันนี้พุ่งไปจบที่ยาร์เชินการ์! เอาตามตรงนะ ความคิดผมคือเป็นไปได้ยาก หนึ่งไกลมาก สองสูงมาก โชคดีที่ท่านผู้นำกลุ่มประกาศเปลี่ยนแพลนใหม่ ร่นไปเป็นเมือง Ganzi ซึ่งก็จะใช้ระยะทางพอๆ กับเมื่อวานคือสามร้อยกว่าโล ส่วนความสูง จะเขยิบขึ้นไปพักปอดกันอยู่ที่ 3,390 m. ซึ่งก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ เขยิบเกินวันละห้าร้อยเมตรเนี่ย แต่ไปๆ มาๆ ความเถลไถลของพวกเราก็เลยทำให้ไปกันได้แค่เพียง Luhuo เมืองกึ่งกลางทางแค่นั้น 555 ก็เป็นผลดีนะ เพราะสูง 3,200m. อยู่ในวิสัยของการปรับระดับ
วิวเหนือดาดฟ้าที่พัก ทิวเขาสูงชันของหมู่บ้าน
ทั้งหมดนี่บนหลังคาที่พักทั้งนั้น
วิวแม่น้ำ Dajin และชายขอบหมู่บ้านเจียจู
ได้เวลาเดินทางกันต่อ ลงจากหมู่บ้านเจียจู มุ่งหน้าย้อนทางเข้าสู่เมืองตันปาที่เมื่อวานเย็นเจอฝน นี่ครับ เมืองในหุบ หมู่ตึกซ่อนเร้น ที่ซุกตัวอยู่ในซอกหุบเขา ตึกสิบชั้นผุดขึ้นเต็มเมือง งงไปเลย
แผนที่การเดินทางของ Day2 เส้นแดงๆ ขึ้นระยะเดินทางของเรา 240 กิโลเมตร จากหมู่บ้านเจียจูที่เราพัก กลับลงไปเมืองตันปา แล้วไต่เส้นทางขึ้นพื้นที่สูงต่อไป ไปจบที่เมือง Luhuo ส่วนเส้นปะแรกสีส้มๆ คือแพลนที่จะเดินทางไปให้ถึงเมือง Ganzi แต่ไปไม่ถึง ส่วนเส้นปะซ้ายสุดสีน้ำตาล คือแพลนเดิมสุดที่จะหาญกล้าพุ่งพรวดไปสู่ Yachen gar บนความสูง 4,000 m. //โชคดีแล้วที่แผนเหลว
จุดชมวิวภูเขาหิมะ YALA
elevator: 3,550 m.
เมื่อออกจาก Danba เรายังคงมุ่งหน้าใช้ทางหลวงจังหวัดเส้นเดิม s303 มุ่งหน้าทิศเดิม ทิศตะวันตก ลึกเข้าไปและลึกขึ้นไปเรื่อยๆ ในดินแดนทิเบตนอกทิเบต เขตกานจือ ทำระยะทางมาได้ 60 กิโลจากตันปา อาสุ่ยก็มาจอดให้กับจุดชมวิวสุดกรี๊ดอีกจุดหนึ่ง นั่นคือจุดชมวิวยอดเขาหิมะ Yala ที่มียอดพีคที่ 5,820m. จากระดับน้ำทะเล ข้างในนั้นเป็น scenic area และเส้นทางเทรคกิ้งสุดงามอีกแห่งของเสฉวน ส่วนพวกเราก็ทำได้แค่ sightseeing ตามคอนเซ็ปต์ของ road trip
อ้อยอิ่่งอยู่กับวิว Yala อยู่นานมาก อาสุ่ยก็ขยับล้อเดินทางต่อ ไต่ความสูงอย่างชำนาญ เส้นทางไปแตะเกือบ 4,000 เมตรอีกครั้งก่อนลดระดับลงสู่ชายขอบพื้นที่เมือง Dawu
มองเห็นวิววัด Huiyuan ที่ตั้งอยู่ชายขอบตะวันออกสุดของ Dawu แห่ง Ganzi มณฑลเสฉวน อาสุ่ยใจดีจอดให้ถ่ายตามใจฉันอีกครั้ง ทริปจะเจ๋งไม่เจ๋งอยู่ที่ความโชคดีในเรื่องคนขับรถเนี่ยแหละ ว่ามั้ย
เข้าสู่เขตเมือง Dawu ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Bameizhen
แวะกินมื้อเที่ยงกันที่นี่ และที่นี่เราก็พบกับหญ้าหนอนถั่งเช่าที่คนทิเบตใส่หมวกจังโก้เดินเข้ามาเสนอขายให้ถึงในร้าน
เพิ่งเคยเห็นถั่งเช่าครั้งแรกเลยครับ อ๋อ หน้าตามันเป็นงี้นี่เอง หญ้าหนอนถั่งเช่า ถั่งคือหนอน เช่าคือหญ้า เกิดจากหนอนที่นอนจำศีลในฤดูหนาวจนมีพวกเชื้อรามาจับและเจริญเติบโตขึ้นกลายเป็นหญ้าสมุนไพร พวงนึงมี 10 ตัวราคมอย่าให้เซด แพงมว้าก
ทุ่งหญ้าข้างทาง มีชาวทิเบตเอาม้ามาให้เช่าขี่ด้วย
อาสุ่ยจอดตามใจพวกเราอีกครั้่ง ถ่ายรูปทุ่งหญ้าข้างทางบริเวณนี้อย่างลิงโลด
แต่เป็นความลิงโลดแบบกึ่งๆ ลิงหลับมากกว่า สนุกสนาน เมื่อความรู้สึกตอนนี้คือก้าวขาแต่ละก้าวไม่ค่อยออก มันอืดมันหนืดไปหมด หอบง่าย เหนื่อยเร็ว เฮ้ย ไรวะ มองดูหน้าปัดจีพีเอส ก็พบว่าตอนนี้เรามายืนอยู่บนระดับความสูง 3,843 เมตร มิน่าล่ะ
หันมองเพื่อนบางคนนั่งนิ่งไม่ยอมเดินแล้ว
Night2 พักปอดกันอีกขยัก ณ ความสูง 3,200m.
เมือง Luhuo
Ganzi, Sichuan
หกโมงเย็น แต่ฟ้ายังแจ้งแจงแวง แดดยังส่อง ตะวันยังสูง
Luhuo อยู่ตรงไหน เกือบจะใช้เส้นลองกิจูดเดียวกับกรุงเทพก็ว่าได้ แต่ time zone ของเมืองจีน +8 ส่วนของไทยนั้นช้ากว่าจีนชม.นึง ตอนนี้ที่นี่หกโมงเย็น ที่ไทยก็ต้องห้าโมง ช่วงต้นพค.ที่เรามากันนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ ซีกโลกเหนือเริ่มโย้ตัวเข้าหาตะวันมากขึ้นๆ ค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่ซัมเมอร์ ทำให้ตำบลไหนยิ่งอยู่บนละติจูดสูงขึ้นยิ่งมีช่วงเวลากลางวันมากขึ้น อย่างที่ Luhuo นี่อยู่ลองติจูด 31 องศาเหนือ ช่วงที่เรามานี่กลางวันยาวนานกว่า 13 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนที่กรุงเทพอยู่ 13 องศาเหนือ มีช่วงเวลากลางวัน 12.40 ชม. น้อยกว่าที่นี่ เกือบชั่วโมง สรุปใครงงบ้าง ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ที่นี่ ดวงอาทิตย์วันนี้จะตกสองทุ่ม ตามนั้น
ที่พักของเราที่ Luhuo
ก็อีกเช่นเคยครับ walk in คือทริปนี้ที่พักเนี่ย walk in หมด ค่ำไหนก็หานอนที่นั่น
อ้อ เมื่อเดินทางมาถึง Luhuo เนี่ย ก็ถือว่าสิ้นสุดเส้นทาง ทางหลวงจังหวัดสาย s303 ด้วยนะครับ ด้วยระยะทางทั้งสิ้นตั้งแต่ขึ้นสู่โซนภูเขาในวันแรกแถวๆ Yingxiu ยาวไกลมาถึงที่นี่ กว่า 500 กิโลเมตร
เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก กับครอบครัวชาวทิเบตัน
เก็บแสงสุดท้ายที่ Luhuo ริมแม่น้ำ Daqu ช่วงใกล้บรรจบกับแม่น้ำ Xianshui ทายซิถ่ายกี่โมง… เฉลย เกือบๆ สองทุ่ม
ค่ำคืนนี้อาสุ่ยเริ่มทำเกินหน้าที่พขร. เดินแจกยาแคปซูลที่ช่วยเรื่องการเต้นของหัวใจ เดาว่าน่าจะดีกว่าไดอะมอกซ์ ก็เลยรับแจกอย่างไม่รีรอ ขอบคุณอาสุ่ย ณ ที่นี้
อรุณสวัสดิ์ทักๆ เมืองหลูโฮ่ว กับอากาศที่เย็นจนควันออกปากแล้ว เมื่อคืนน่าจะมีต่ำกว่า 0 นิดหน่อย ได้เวลาเดินทางต่อ และก็แวะจัดการหมั่นโถวเป็นอาหารเช้า
ระหว่างรอเพื่อนซื้อซาลาเปา เราก็ถ่ายอีเหละเขกขะไปเรื่อย
May 7, 2018 เดินทางสู่ ทะเลสาบสุดขอบฟ้า
Day3 Luhuo – Ganzi – ทะเลสาบ Xinlu แล้วย้อนกลับมานอน Ganzi
ความสูง 3,200m.
ไปเทรคกิ้งสั้นๆ ที่ทะเลสาบเหนือระดับน้ำ 4,000m. แล้วย้อนมาพักปอดที่ 3,390 m. ณ เมือง Ganzi เมืองชื่อเดียวกันกับ Prefecture
ระยะทาง 303 กิโล
ใช้เวลาตะลอน 12 ชม.
วันนี้เราเดินทางด้วยถนนสายใหม่ ทางหลวงแผ่นดิน G317 ท้องฟ้าวันนี้แจ่มใสที่สุดนับตั้่งแต่ออกทริปมา ฟ้าสีครามเข้ม เมฆน้อยมากๆ และอากาศก็เย็นได้ใจ
ออกพ้นเมืองมาได้ 50 กว่ากิโลเมตร ก่อนจะพ้นเขตพื้นที่ของ Luhuo ก็ต้องมากรีดร้องอีกครั้งกับวิวทะเลสาบข้างทาง
Kasha Lake
ทะเลสาบบนความสูง 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนพวกเราก็อยู่บน 3,600 อาสุ่ยจอดรถให้ทันทีอย่างรู้ใจ ขืนไม่รู้ใจก็มีหวังทนฟังเสียงกรีดร้องไป
ทะเลสาบ Kasha ถือเป็นทะเลสาบที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต Kham เป็นทะเลสาบเล็กๆ พื้นที่เพียงไม่ถึงหนึ่งตารางกิโลเมตร ลึกเฉลี่ย 8 เมตร
สวยอะไรเบอร์นั้น
อารมณ์ของพวกเราเพลานี้ ตกอยู่ในพวังเดียวกัน เสฉวนสวยเป็นบ้า
มีคนกล่าวไว้ว่า
” You go to Lahsa for the monasteries, you go to Kham for the scenery “
เมืองลาซาร์เรายังไม่เคยไป แต่บอกได้คำเดียว ดินแดนทิเบตเขต Kham ที่เราผ่านมาเข้าสู่วันที่ 3 นี้ วิวภูเขาสวยงามอลังการจริงๆ หลายๆ มุมนี่ยังกะยุโรป
จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งเหนือทะเลสาบ Kasha
ทิ้งทะเลสาบ Kasha ไว้เบื้องหลัง มุ่งหน้าออกจากพื้้นที่ Luhuo มุ่งหน้าเข้าสู่ปริมณฑลของ Ganzi county ที่เป็นชื่อเดียวกันกับ Ganzi prefeture ประมาณว่าอำเภอเมืองที่ชื่อเมืองจังหวัดนั่นเอง เส้นทางไต้ฟ้าแบบเบาๆ หย่องเข้าแตะระดับ 4,000 เมตรกันเลยทีเดียว แล้วอาสุ่ยก็ยอดให้ ณ จุดชมวิวบนนี้อีกครั้ง ว้าวทั้งวันจริงๆ เลยวันนี้
ตรงนี้มีลานจอด มีห้องน้ำ และมีลานชมวิวเป็นเทอร์เรสกว้าง จึงได้รู้ว่าเส้นทางนี้มีเป็นพาสที่มีชื่อว่า…
Sharshok Township Lamgong Pass View Terrace
11:30 เราก็เข้าถึงตัวเมือง Ganzi
เช็ดดด!! เป็นเมืองใหญ่และโคตรสวยอีก เอาจริงๆ ทริปนี้ตอนแรกมโนไว้ว่าจะนอนกระท่อมนอนกระโจมและเจอแต่ขุนเขาอันอ้างว้าง ไม่ได้คิดเลยว่าจะมาเจอเมืองตลอดทางเยี่ยงนี้
Ganzi (กานจือ) หรือ Garze ในภาษาทิเบต
elevator: 3,390m.
คืนนี้เราจะนอนที่นี่ เนื่องจากว่านี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วเราแวะเข้ามาในเมืองเพื่อหาข้าวกิน ซึ่งก็ได้ร้านข้าวหน้าเป็ด ผักโคตรกรอบอร่อย เมนูนอกจากนี้ก็มีข้าวหมูแดง เดาออกมั้ยทำไมผักกร๊อบกรอบ แหวะ 55555 อย่าไปพูดถึงกรรมวิธี มากินผักให้อร่อยดีกว่า นอกจากข้าวหน้าเป็ดแล้วก็ยังมีข้าวหมูแดงหมูกรอบ
พูดถึงสัญญาณเนท หลักจากใช้ Travel SIM World ของทรูมาได้ 3 วัน ตอนแรกก็กังวลนะว่าทริปนี้อยู่แต่บนเขาจะมีสัญญาณมั้ย สรุปว่ามีนะครับ เกือบตลอดทาง ถามว่าสัญญาณดีมั้ย ก็ต้องบอกตามจริงว่าแกว่งตลอดทางเช่นกัน แต่ก็ไม่ถึงกับหัวเสียอะไร เพราะก็ได้ความแรง 4G 3G บ่อยๆ แต่เหมือนจะอยู่ที่เงื่อนไขการใช้ด้วย ถ้าโหลดคลิบดูยูทูปหรือแม้กระทั่งเล่นเฟสแต่ไปคลิกดูคลิบเนี่ยสังเกตว่าจะหลุดทันที เหมือนพี่จีนเค้าบล็อกไว้งั้นแหละ!
ผมซัดข้าวหมูแดงครับ และนั่น เขาล่ะผักกรอบ 555
ที่เมืองกานจือ เรามีทางเลือก 2 ช้อยส์ ว่าจะไปทะเลสาบ Xinlu หรือ พุ่งไป Yachen กันเลย ประชุมกันอยู่นาน ผู้นำทริปเสนอว่าควรตัดทะเลสาบออก เพราะแพลนเราล่าช้าผิดแผนไปเมื่อวาน แต่หลายคนรวมทั้งผมไม่ยอมสิ ถ้าตัดทะเลสาบไปเนี่ยทริปนี้จะไม่เหลือไฮไลท์ด้านแลนด์สเครปกันเลย ผลการประชุมก็เลยลงเอยว่าไม่ตัด และนั่นคือเหตุผลว่าคืนนี้เราจะนอนกานจือหลังกลับจากทะเลสาบซินหลู แล้วค่อยเขยิบไปยาร์เชนในวันถัดไป …. ตามนั้น
อิ่มข้าวหน้าเป็ดแล้วเราก็เดินทางออกจาก Ganzi มุ่งหน้าทะเลสาบด้วยความตื่นเต้น เพราะกำลังจะได้เจอไฮไลท์สุดจุดหนึ่งของทริปละ ขับออกมาได้สิบกว่าโลก็เห็นวิวเทือกเขาหิมะที่โคตรสวยอีก ก็เลย …. อาสุ่ยยยๆๆๆๆ จอดๆๆๆๆ
อาสุ่ยรีบหักพวงมาลัยเร็วรี่
และวิวตรงหน้าของเราก็คือแบบนี้
เสฉวนนี่มันสวยจริงๆ ใจผมมันละลายแล้วละลายอีก
เดินทางกันต่อไป มุ่งหน้าปลายทางทะเลสาบสุดขอบฟ้า Xinlu hai
แวะร้านโชว์ห่วยข้างทางหาซื้อหงหนิวกิน ใครไม่รู้จักหงหนิวบ้าง
ถ่ายเด็กๆ ลูกหลานเจ้าของร้าน น่ารักดี
มาถึงที่นี่เนี่ยเริ่มเห็นละว่าผู้คนใช้ภาษาที่แม้แต่ไกด์อาสุ่ย (ตอนนี้เลื่อนขั้นให้ควบตำแหน่งไกด์ละ) ก็ยังส่งภาษาไม่รู้เรื่อง กว่าจะซื้อของกันจ่ายตังค์กันได้ใช้ภาษากันจนเมื่อยมือ
ทะเลสาบซินหลู เกือบจะเป็นเพียงความฝัน
เมื่อเราเดินทางมาถึงอีกเพียงสิบกว่ากิโลจะพบทะเลสาบ ก็มาเจอด่านตรวจที่ดับความหวัง
กี่ด่านต่อกี่ด่านที่ผ่านมาเราผ่านได้หมด แต่ด่านนี้กักเราไว้นานกว่า 50 นาที และเป็นนาทีที่ 50 เท่านั้นที่จนท.ด่านเปลี่ยนใจให้เราไปต่อ ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะพูดอย่างไรจนท.ด่านก็ยืนยันให้เราถอยหลังกลับห้ามไปต่อ อาสุ่ยยัดเงินใส่มือไปเยอะ
ซินหลูไห่ หรือทะเลสาบซินหลู อยู่ตรงหน้าเรานั่นแล้ว ห่างไปอีกไม่เกินสามโล ซ่อนตัวอยู่ใต้เงื้อมเงาโคตรพ่อภูเขาหิมะทะมึน ยอดตรงหน้านั่นล้วนแต่เกิน 5,000m. ทั้งสิ้น
ถ้าจะดูว่าซ่อนตัวอย่างไรก็ต้องมุมสูงแบบนี้ หมุดเหลืองนั่นคือตำแหน่งเดียวกันกับ
ถึงแล้ว Xinluahi Natural Reserve
ต้องเทรคอีกครึ่งกิโล ขึ้นๆ ลงๆ เนินเขา จึงจะเจอภาพแรกของทะเลสาบ เหลี่ยมมันบังมิดจนกว่าจะสุดเทรลจริงๆ และเป็นการเทรคที่ก้าวขาแทบไม่ออก 555 เพราะขณะนี้เราเทรคอยู่บนความสูงเหนือ 4000 เมตรซะแล้ว
Xinluhai
ทะเลสาบสุดขอบฟ้า
Dege, Ganzi, Sichuan
elevator: 4,040m.
สวยเบอร์นี้ ในที่สุดก็ดั้นด้นมาถึง และดีใจอย่างสุดซึ้งที่ที่แห่งนี้ไม่ถูกตัดออกจากแพลนด้วยการยืนกรานของเรา คุ้มค่าครับ
ขาดแต่อย่างเดียว… แดด! ตำรวจด่านตรวจพวกนั้นกักรถเราเสียจนแดดหมด สุขไม่สุดปนเซ็งนิดๆ แต่ก็อดกรีดร้องไม่ได้ ดีใจ ได้มาเห็นสถานที่สวยงามขนาดนี้ ด้วยความยากขนาดนี้ โอย หอบ พักหายใจแป๊บ
เย็นนั้นเราก็ย้อนกลับเข้าเมืองหาที่พัก
และนี่คือที่พักของเรา โถ จะบากหน้ากลับไทยไปบอกใครได้เล่าว่ามาลำบากที่เสฉวนสุดขอบฟ้า
ตอนที่ 2 http://www.namfapakhao.com/tibet-outside-tibet-part-2/
Comments are closed.