Jul-2018
update ฉงชิ่ง 2018 สนามบิน รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง
พอดีผมมีทริปต้องบินไปเที่ยวเสฉวน แต่แพลนกันว่าจะขี่เครื่องบินไปลงฉงชิ่งแวะ sighseeing ซะหน่อยแล้วจะถือโอกาสเที่ยวหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ด้วย เห็นภาพแล้วอยากไป
เรื่องมันต้องมาอัพเดทให้ฟังก่อนจะรีวิวเสฉวน (ทิเบตนอกทิเบต) ให้อ่านกันในตอนต่อไป ก็เพราะเหตุ 3 ประการนี้!
1.) สนามบินฉงชิ่ง เปิด terminal ใหม่ T3 (เปิดตัว 29 Aug 2017) ไฟล์ตปท.ย้ายมาลงเทอร์นี้ ส่วนเทอร์เดิม T1 ปิด!
2.) รถไฟฟ้าเปิดใหม่พร้อมกัน 2 สาย (เปิดตัว 28 Dec 2017) 1ใน 2 สายนี้คือ Line10 (new Airport Line) เชื่อม terminal ใหม่ T3 การเดินทางเข้าเมืองเปลี่ยน!!
3.) สถานีรถไฟ Chongqing North railway station ใครจะเดินทางต่อด้วยรถไฟความเร็วสูง มีเรื่องสำคัญต้องอัพเดทเช่นกันไม่งั้นมีสิทธิตกรถไฟ!!!
พร้อมแล้วไปกันเลย
เรื่องต้อง update ที่สนามบิน และรถไฟฟ้า new airport line
เราบินแอร์เอเชียเที่ยวบิน FD556 ดอนเมือง-ฉงชิ่ง 6:10 UTC+7 – 10:10 UTC+8
เราจองไฟล์กลับไว้ที่อีก 10 วันจากนี้ ด้วยเที่ยวบิน FD557 ฉงชิ่ง-ดอนเมือง 11:10 UTC+8 – 13:20 UTC+7
ผมไม่เคยมาฉงชิ่ง และก็ทำการบ้านมาก่อนว่าที่นี่ international flights จะมาลงที่ T1 ซึ่งจะเป็นเทอร์มินอลเล็กๆ อารมณ์บขส.ตจว. และวิธีเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าก็คือเดินออกจาก T1 เลี้ยวซ้ายเลาะชิ่งเดินไป 200 เมตรจะเจอสถานีรถไฟฟ้า Line3 หน้า T2
คือพลาดเอง ลืมสังเกตตั๋วว่าเครื่องจะลง T3!! พอเครื่องบินแลนดิ้ง ผ่านด่านตม. เดินลากกระเป๋าออกมาถึง arrivals hall ก็งง-เลย เฮ้ย! ไม่ใช่แระ ไม่เหมือนที่อ่านมาละ พอตั้งสติได้ ถึงได้เพิ่งสังเกตว่าเฮ้ย มี Terminal ใหม่งอกมา ตั๋วก็โชว์อยู่ว่าบินมาลง T3 ไม่เฉลียวใจเอง แล้วนี่ T1 ไปไหน แล้ว T3 เพิ่มมาได้ยังไง อ่านมามันมีแค่ T1 T2 (มารู้ทีหลังว่า Terminal 1 ปิด >>> closed)
New Terminal 3 เปิดใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เฟสแรก T3A เฟสที่สองกำลังก่อสร้าง เทอร์ใหม่นี้อลังการงานสร้าง ใหญ่กว่าเดิมแบบไม่ต้องเทียบ ดูภาพเอา งอกมาฟากตะวันออกของรันเวย์ ตรงข้ามกัน Tเก่าๆ ระยะห่างจากเทอร์มินอลเดิมเนี่ยยาวกว่าสองกิโล!! วิธีเดินทางเข้าเมืองโดยรถไฟฟ้าจึงต้องเปลี่ยนไป ลืม line3 ไปได้แล้ว
New Terminal 3 เปิดใหม่พร้อมการมาของ Subway รถไฟฟ้าใต้ดินสายใหม่ CRT Line10 หรือสายสีม่วง New Ariport Line สถานีอยู่ชั้นใต้ดิน B1F ของ T3 มองหาป้ายชี้ทางไปหา subway แล้วกดลิฟท์ลงไปเลย อยู่ชั้น B1F ตามภาพ
ออกจากลิฟท์มาก็ตรงไปตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติกันครับ ซื้อง่ายเหมือนตู้ BTS เมืองไทย มีเมนู English ค่าโดยสารโคตรถูก นี่นั่งเข้าเมืองจ่ายประมาณ 4 หยวน (ยี่สิบบาท) 1/3 ของราคาโดยสารบ้านเรา ระยะทางเข้าเมืองประมาณ 19 กิโลจ่ายยี่สิบบาท ลองเทียบกับบ้านเราดู บีทีเอสจตุจักร-สุดสายบีทีเอสบางหว้า 19 โลเหมือนกันแต่จ่าย 59 บาท สามเท่า
สำหรับสายสีม่วงนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 28 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา นับนิ้วดูก็เพิ่งจะ 5 เดือนเศษนี่เอง กลิ่นใหม่ยังไม่จาง ปัจจุบันฉงชิ่งมีรถไฟฟ้าวิ่งทั้งบนฟ้า ทั้งใต้ดิน รวมทั้งสิ้น 6 สาย คือ 1 2 3 5 6 10 และอนาคตเมื่อเสร็จทั้งหมดจะเป็นทั้งสิ้น 18 สาย เป็นโครงข่ายที่มหึมางานสร้างมาก ไม่รู้จะแล่นทะลุตึกไปอีกกี่ตึก และจะทำลายสถิติบันไดเลื่อนที่ยาวถึง 3 นาทีลงมั้ย
แต่แม้ว่ากูเกิ้ลแม๊บจะไม่อัพทูเดท เราก็ยังต้องพึ่งพานะครับ พี่จีนขึ้นชื่อเรื่องการสกัดกั้นกูเกิ้ล เฟสบุ๊ค ยูทูป ใครเคยมาคงรู้ว่าปัญหาเยอะ เรื่องจะพึ่งไวไฟที่นี่ลืมได้เลย ในเมื่อมันเข้าโซเชียลเนทเวิร์คยอดนิยมของไทยไม่ได้ นอกจากจะเซทมือถือเราให้ทะลวงผ่าน vpn วิธีง่ายๆ สำหรับผมคือใช้ Travel SIM World ของ True จริงๆ มีแพ๊คถูกกว่านี้ แต่ผมใช้แพ๊คแพงกว่าเพราะผมอยู่ที่นี่ 10 วัน เลยต้องใช้แพ๊คนี้ซึ่งครอบคลุม 15 วัน 4GB
เอาเป็นว่าถ้าอยากทะลุทลวง facebook IG twitter Google youtube โดยเฉพาะ google translate ไม่มีไม่ได้เลยไอ้หวังตายแน่ 555 เอาเป็นว่าต้องพกซิมจากไทยไปแบบนี้แหละ
อัพเดท Chongqing North railway station เรื่องเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง
เอาล่ะครับเรื่องที่สำคัญที่ต้องอัพเดทเรื่องสุดท้าย สำหรับใครที่ต้องการเดินทางออกจากฉงชิ่งด้วยรถไฟความเร็วสูง เช่นจะเดินทางไปเฉินตู ที่ Chongqing North Railway Station ทำเอาผมมึนตึบจนต้องหยิบมาเล่าบอก
ลงผิดสถานีชีวิตเปลี่ยน!
และเนื่องจากความใหญ่โตมโหฬารของสถานีรถไฟฉงชิ่งเป่ย หรือ Chongqing North railway station ก็บอกเลยว่า ลงผิดสถานีชีวิตเปลี่ยน! อาจจะตกรถไฟกันเลยทีเดียว เพราะว่าตอนนี้ทั้งสองฝั่งแม้จะหลังคาเดียวกัน แต่ยังไม่มีการทำให้เชื่อมถึงกัน พี่จีนทำผนังกั้นแบ่ง hall เป็นสองฟาก ดังนั้นต้องเลือกสถานีให้ถูก เนื่องจากว่าสองฟากนั้นเสริฟรถไฟคนละชนิด >>>ความเร็วสูงจะอยู่ฝั่งเหนือ ความเร็วปกติอยู่ฝั่งใต้<<< ถ้าคุณมาจากสนามบินโอกาสมาผิดฝั่งยากหน่อยสบายใจได้ เพราะ line 10 ซึ่งมันบังคับลงฝั่งเหนือและไม่จอดฝั่งใต้ คือ bypass ไปเลย แต่ถ้าคุณออกมาจากในเมือง นี่แหละ ต้องเลือกสายดีดี อย่าเผลอไปขึ้น line 3 เพราะมันจะโผล่ south side การจะข้ามฟากไปอีกฝั่งนึงต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ! โดยแท๊กซี่ ไม่ก็รถเมล์ หรือนั่งรถไฟฟ้าย้อนกลับไปเชื่อม line 10 ซึ่งอ้อมมาก
แต่เดี๋ยวก่อนซาร่า!! ถ้ามาเพียงแวะซื้อตั๋ว หมายถึงมาจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า อันนี้คุณจะมาขึ้นที่ฝั่งไหนก็ได้ North ก็ได้ Sourth ก็ได้ ทั้งสองฝั่งมี Ticket Hall ออกตั๋วรถไฟได้ทุกประเภท แต่ตอนเดินทางจริงอันนี้สำคัญ ต้องมาให้ถูกฝั่งเท่านั้น ย้ำอีกครั้ง ฝั่งใต้เป็นรถไฟขบวนความเร็วปกติ normal speed train ส่วนฝั่งเหนือเป็นชานชะลาของ High speed train หรือรถไฟหัวกระสุน รถไฟความเร็วสูง
จากภาพตอนโผล่ขึ้นมาจาก subway ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่ามี north มี south ไง โผล่มาเจอหน้าตาสถานีมันไม่เหมือนที่อ่านรีวิวมา สตั๊นไปเกือบสิบนาที 555 ไปกันไม่เป็น ตั้งสติเปิดภาพที่เซพมาเดินถามคนให้วุ่น ถามใครก็ไม่มีใครพูดอังกฤษได้ ตอนนั้นงงมากและสรุปเอาดื้อๆ ว่าพี่จีนทุบสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม 5555
จุดจำหน่ายตั๋วอยู่หนใด
ฝั่ง North Terminal
Ticket Hall จะขนาบอยู่ทั้งสองฝั่งด้านนอกสถานี
อีกจุดหนึ่งจะอยู่ที่ชั้น -1F
ฝั่ง South Terminal
Ticket Hall จะอยู่อาคารฝั่งซ้าย ( west side ) ยืนอยู่ด้านนอกหันหน้าเข้าสถานี อาคารจะอยู่ฝั่งซ้าย
มีจุดขายตั๋วอีกจุดหนึ่งคือใกล้ๆ สถานีรถไฟ line3
และในที่สุดฟ้ามาโปรดหลังจากถามคนจนเมื่อยมือ ก็เจอคนที่โคตรใช่ ใจดี นอกจากพูดอังกฤษได้แล้วยังอาสาพาเราไปซื้อตั๋ว ประทับใจมากๆ เพราะหลังจากเห็นการซื้อตั๋วแล้วบอกเลยสยองมาก คือหน้าคนขายตั๋วแต่ละคนเป็นจวักมาก ทั้งที่เป็นพนง.ญ นะ อายุก็น้อยๆ แต่คิ้วนี่ขมวดยังกะงิ้ว นั่งตวาดส่งเสียงตะคอกลูกค้า (แต่จะบอกให้ ที่นี่ที่เดียวที่ผมเจอคนหน้ามุ่ย นอกนั้นตลอดทั้งทริปที่อยู่ฉงชิ่ง บอกได้คำเดียวคนฉงชิ่งโคตรเฟรนลี่ โคตร nice ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว)
ช่องจำหน่ายตั๋วฝั่งนี้ไม่มีภาษาอังกฤษเลยครับ จีนล้วน แนะนำครับว่าถ้าหาใครช่วยซื้อไม่ได้ให้ตรงไปเครื่องจำหน่ายตั๋วจะเครียดน้อยกว่า 555 แต่ก็อีกนั่นแหละ เครื่องมันจะออกตั๋วให้คนต่างชาติที่ต้องใช้พาสปอร์ตได้ป่าวไม่รู้ แถมซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ป่าวก็ยังไม่ได้ลองอีก
*การซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงสำหรับชาวต่างชาติต้องแสดงพาสปอร์ตด้วยนะครับ และต้องตรวจสอบชื่อ นามสกุล เลขพาส ให้ตรงกับตั๋วที่ออก ห้ามเพี้ยนเด็ดขาด
ภายใน Ticket hall หน้าตาเป็นแบบนี้ ตอนแรกคนจีนที่ใจดีคนนั้นพาพวกเราไปต่อแถว 2 ปรากฏว่าพอถึงคิวเราพนง.ก็ไล่ไปเข้าแถวใหม่ที่ช่อง 7-11 ขนาดพี่จีนพามาซื้อยังเข้าผิดแถว คิดดู อ่ะ ผมแปลเป็น อ. มาให้ละ
รถไฟความเร็วสูงหรือรถไฟหัวกระสุน จะมีสามระดับความเร็ว แยกตามตัวอักษรหน้าขบวน G D C
G Top speed 300 km/h รถรุ่นใหม่ทำความเร็วได้เพิ่มขึ้นเป็น 350 km/h
D Top speed 250 km/h
C Top speed 200 km/h
ราคาแรงตามความเร็ว แต่โคตรถูก ถูกกว่านั่งชินคันเซนเยอะ ข้างล่างเป็นลิงค์รถไฟ มีระบบจองออนไลน์ด้วย แต่ค่าธรรมเนียมโหดไปนิด ซื้อเองดีกว่าไม่มีชาร์ต
https://www.travelchinaguide.com/china-trains/types.htm
ตั๋วอยู่ในมือแล้ว แรดได้ หมดเรื่องอัพเดทเพียงเท่านี้
ตั๋วรถไฟความเร็วสูง ไปกลับเฉินตู จองล่วงหน้าไว้ทั้งคู่ พวกเรามีนัดกันที่เสฉวน จะไปเที่ยวทริปใหญ่ ทิเบตนอกทิเบต (เด๋วจะรีวิวให้ดูตอนหน้า)
มีเวลาแรดที่นี่คืนนึง …. แต่เจ้ากรรม กว่าจะหาที่พักได้ก็ห้าโมง ออกไปดูเก็บแสงเย็นก็ไม่ทัน วันแรกเลยเดินเล่นแถวที่พักนิดหน่อย เช้าวันรุ่งว่าจะไปหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ ก็ไปไม่ทัน เนื่องจากได้คำเตือนมาว่าอาจจะกลับมาไม่ทันขึ้นรถไฟไปเฉินตูที่เราจองล่วงหน้าไว้เที่ยว 20:13 น. แงๆ เลยได้แต่ sightseeing ขำๆ ชมเมืองแค่สองที่เอง เพราะเช้าก็ฝนตก ห้าโมงเย็นก็ต้องรีบเผ่นกลับที่พักอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเช็คเอาท์ไปสถานีรถไฟ ดังนั้นก็เลยไม่มีที่เที่ยวอะไรในฉงชิ่งมารีวิวนะครับ กราบขออภัย โอกาสหน้าพี่จะมาหาใหม่นะฉงชิ่ง แล้วจะมาจัดเต็มกันไปเลย
จบเรื่อง update แล้วก็ขอปิดท้ายรีวิวด้วยภาพที่ถือว่าเป็นภาพเก็บตกกันเล็กน้อยละกันแล้ว
ฉงชิ่งแม่ค้าสวย … ไม่ใช่ละ ฉงชิ่งของกินเยอะ หน้าที่พักผมนี่ของกินเป็นดงเลย
South Mountain Yikeshu (Nanshan Yikeshu) (南山一棵树)
เสียค่าธรรมเนียมเข้า 30 หยวน
ไม่อยากบอกเลยว่ามาฉงชิ่งทั้งทีมาได้ไม่กี่ที่ แต่ยังดีที่ได้ขึ้นมาที่นี่ South Mountain Nanshan Yikeshu
มุมหนึ่งไม่ไกลจากไทม์สแคว์ … ดงของกิน
Time Square
Art Gallery สีแดงโดดเด่น
แหงนหน้ามองเมือง
ชอบทางเดินที่ทำเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้าสองสาย
มุมเล็กๆ สวยๆ มุมหนึ่ง ตอนเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ราง Line2 monorail นี่คือ first monorail in China เลยนะ และแม่น้ำนั่นคือ Jialing River กำลังไหลไปบรรจบแยงซีเกียงที่ห่างออกไป 5 โลทางตะวันออก
แถมท้าย!
May 4 , 2018 เย็น เมื่อเวลามันไม่พอให้เที่ยวฉงชิ่ง ได้แต่ sighseeing นิดหน่อย สัญญาเลยว่าจะกลับมาจัดเต็มเมืองนี้ เราได้เวลาทิ้งฉงชิ่ง เพื่อเดินทางสู่เฉินตู ด้วยรถไฟความเร็วสูง จุดนัดพบรวมพลคนที่เหลือ สู่จุดเริ่มต้นทริปทิเบตนอกทิเบตในวันที่ 5 May
ขอ sample วิธีเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกทีส่งท้าย
เราลากกระเป๋าออกจากที่พักย่านสถานีรถไฟฟ้า หนานผิง Nanping เปิดแอฟรถไฟฟ้าฉงชิ่ง จิ้ม Nanping ไปยัง North Square of Chongqingbei Railway Station
ดูครับ จะเห็นว่าต้องขึ้น Line 3 ปลายทาง Line 10
พร้อมแสดงรายละเอียด Line3 สายน้ำเงิน 7 สถานี ไปลง Hongqihegou เปลี่ยนเป็น Line 6 นั่งไปอีก 2 สถานีไปต่อ Line 10 ที่ Hongtudi นั่งไปอีก 2 สถานีถึง อันที่จริงกูเกิลแม๊บนำทางก็ใช้ได้ครับ แต่เนื่องจากจีนสร้างถนนเนรมิตรถไฟฟ้าและคมนาคมต่างๆ รวดเร็วจนกูเกิลแม๊บอัพเดทไม่ทัน ดังนั้นพวกแอพลิเคชั่นโดยตรงต่างๆ เหล่านี้จะให้ข้อมูลนำทางได้ตรงตามที่ควรจะเป็นมากกว่า
ณ Chongqingbei Railway Station (Chongqing North railway station)
สำหรับ Hight speed train ต้องมาขึ้นที่ฝั่ง North เท่านั้นนะครับอย่างที่บอก พอออกจากสถานีรถไฟฟ้า Line10 ก็เดินตามป้าย Railway entrance ได้เลยครับ มันจะขึ้นบันไดเลื่อนมาเรื่อยๆ จะมาเจอกับทางเข้า ยื่นบัตรโดยสารพร้อมพาสปอร์ตให้จนท.ตรวจ เรียบร้อยแล้วก็ก้าวเข้าสู่ Waiting Hall อันใหญ่โตโอฬารกันได้เลย
ดูข้อมูลบนบัตรของเราหัวมุมบนขวาว่าให้ไปรอเข้าที่ boarding gate ประตูไหน ของผมประตู 8A ก็ไปนั่งรอได้เลยครับ ประตูจะปิดต้องรอจนไฟบนป้ายบรรทัดของขบวนเราเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีเขียว ก็จะเป็นเวลา boarding time หรือสังเกตง่ายนิดเดียวคือคนจะมาเข้าแถวออกันเต็มนั่นแหละครับได้เวลาเข้าสู่ชานชะลา รถไฟขบวนของเรากำลังจะเทียบชานแล้ว
ณ ชานชะลา platform 8
รถไฟมาจอดรอพอดี D2243 ต้นทางมาจากเมือง Fuzhou เมืองริมทะเลตรงข้ามเกาะไต้หวันเลย ออกมาตั้งแต่ 6.50 มาเทียบชานที่ฉงชิ่งสองทุ่มเศษ ปลายทางที่สถานีเฉินตูตะวันออก หรือ Chengdu east ระหว่างทางจอดอีกแค่สถานีเดียวคือ Tongnan ปริมณฑลสุดท้ายของฉงชิ่งก่อนเข้าสู่พื้นที่เสฉวน
จากนี้ก็เดินทางสู่เฉินตู มณฑลเสฉวน ด้วยระยะทาง 307 กิโลเมตร ระยะเวลาแล่น 2ชั่วโมง 4 นาที ถ้านั่งเกรด G จะเหลือชั่วโมงครึ่ง
รีวิวหน้าจะมารีวิวนี่ครับ ทริปทิเบตนอกทิเบต
ปิดท้ายทู้นี้ด้วยภาพ Yachen Gar รอติดตามชมกันนะครับ
Comments are closed.